รู้จักกับ รูเล็ต (ROULETTE) อีก 1 เกมการพนันยอดนิยม
นอกเหนือจากเกมไพ่ประเภทต่างๆ อย่าง บาคาร่าออนไลน์ เสือ มังกร ยังมีอีก 1 เกมที่ถือได้ว่ามีเอกลักษณะเฉพาะทั้งอุปกรณ์และวิธีการเล่น นั่นก็คือเกม ROULETTE หรือ รูเล็ต นั่นเอง
ROULETTE หรือ รูเล็ต นั้น เป็นเกมคาสิโนออนไลน์สุดคลาสสิก ที่มีเสน่ห์และความสนุกสนานของรูปแบบการเล่นที่เฉพาะตัว โดยได้รับความนิยมจากนักพนันทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ไปไม่น้อยไปกว่าเกมไพ่บาคาร่าออนไลน์ ซึ่งคำว่า “รูเล็ต” นั้น มีที่มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “วงล้อเล็กๆ” โดยนักพนันสามารถเล่นเกม ROULETTE นี้ได้ จากเว็บไซต์ผู้ให้บริการเกมเดิมพันคาสิโนต่างๆ ที่มีบริการแทบจะทุกเว็บไซต์ สำหรับวิธีการเล่น ROULETTE นั้น จะมีผู้ที่ทำการหมุนวงล้อรูเล็ตต์ และปล่อยลูกบอลให้วิ่งไปบนวงล้อนั้น ลูกบอลจะตกลงไปอยู่ในช่องใดช่องหนึ่งในที่สุด เพราะสูญเสียโมเมนตัม โดยเกม ROULETTE โดยทั่วไปจะมี 37 ช่อง (ฝรั่งเศสและโซนยุโรป) หรือ 38 ช่อง (อเมริกา) โดยจะมีสีและตัวเลขกำกับทุกช่อง
ROULETTE คือเกมการพนัน ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1842 โดยในอดีต นักพนันสามารถเข้าไปเล่น ROULETTE ได้ตามบ่อนคาสิโนทั่วไป แต่สำหรับปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น ทำให้นักพนันสามารถเล่นเกมนี้ได้ ผ่านเว็บไซต์ผู้ให้บริการเดิมพันออนไลน์ กลายเป็นเกมรูเล็ตต์ออนไลน์ที่เราเล่นกันอยู่ขณะนี้ โดย ROULETTE มีจุดเด่นคือการใช้วงล้อ ที่ประกอบไปด้วยตัวเลขตั้งแต่ 0 – 36 ที่สลับตำแหน่งและสลับสีกันอยู่ โดยนำมาใช้หมุนในการออกรางวัล ซึ่งจะมีลูกเหล็กเล็กๆ กลิ้งไปมาตามแรงหมุน หากลูกเหล็กนั้น ไปหยุดหรือตกลงในช่องตัวเลขใด ผู้เล่นที่เสี่ยงทายถูกก็ได้รับรางวัลไปนั่นเอง โดยเกม ROULETTE ในยุคปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้
- โต๊ะ ROULETTE แบบยุโรป มีทั้งหมด 37 ช่องหมายเลข ตั้งแต่หมายเลข 0 – 36
- โต๊ะ ROULETTE แบบอเมริกา มีทั้งหมด 38 ช่องหมายเลข ตั้งแต่หมายเลข 0 – 36 และเพิ่ม 00 อีก 1 ช่อง
กติกาและวิธีการเล่น ROULETTE
ROULETTE เป็นเกมการพนันที่เก่าแก่ สามารถย้อนไปได้หลายร้อยปีเลยทีเดียว โดยมีกฎกติกาการเล่นในแบบดั้งเดิมและแบบออนไลน์ ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนี้
- เมื่อเริ่มเล่น ROULETTE ในแต่ละรอบ จะมีเวลานับถอยหลังประมาณ 60 วินาที เพื่อให้ผู้เล่นได้ทำการวางเดิมพันตามรูปแบบที่ต้องการ พร้อมกับเลือกจำนวนเครดิตหรือจำนวนเงินที่ต้องการวางเดิมพัน โดยผู้เล่นทุกคน สามารถเลือกวางเดิมพันในหมายเลข หรือรูปแบบที่ต้องการ โดยอาจมาจากความชอบ หรือการคาดการณ์ของแต่ละคน ซึ่งทั้งนี้ การเลือกวางเดิมพันแต่ละรูปแบบนั้น ก็จะมีสัดส่วนอัตราการจ่ายที่แตกต่างกันไป ซึ่งดูคล้ายและให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการแทงเลขสูงต่ำของเกมไฮโล
- หลังจากผู้เล่นได้วางเงินเดิมพันเรียบร้อยแล้ว ผู้ควบคุมเกม (Croupier) จะทำการหมุนวงล้อรูเล็ตต์ไปทางซ้าย ตามด้วยการโยนลูกเหล็กไปตามแนวการหมุนของวงล้อรูเล็ต เมื่อลูกบอลเหล็ก ไหลลงสู่วงล้อแล้ว พนักงานหรือผู้ควบคุมเกมจะทำการขานว่า “No more bets” หมายถึงการไม่รับการเดิมพันเพิ่มเติมแล้วในรอบนั้นๆ
- หลักจากลูกบอลเหล็กหยุดนิ่งลงที่หมายเลขใดหมายเลขหนึ่ง ผู้ควบคุมเกมจะมีการแสดงผลหมายเลขที่ลูกบอลเหล็กอยู่ แล้วเปรียบเทียบเพื่อเป็นการตรวจสอบผลการเดิมพันได้เสีย และจะมีการแสดงผลที่หน้าจอ เช่น ถ้าลูกบอลหยุดที่เลข 7 สีแดง ผู้เล่นคนไหนที่วางเดิมพัน “สีแดง” หรือ “เลขคี่” เอาไว้ ก็จะชนะได้รับเงินเดิมพันคืนเป็น 2:1 (แทง 100 ชนะได้กลับมา 200)
รูปแบบการเดิมพันเกม รูเล็ต (ROULETTE)
รูปแบบการวางเดิมพันในเกม ROULETTE นั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ Outside bets การวางเดิมพันภายนอก ที่จะเดิมพันแบบไม่เฉพาะเจาะจง ตัวเลขส่วนใดส่วนหนึ่ง และแบบ Inside bets การวางเดิมพันภายใน ที่จะเดิมพันแบบเฉพาะเจาะจงตัวเลขต่าง ๆ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีอัตราการจ่ายเงินที่แตกต่างกันออกไป โดยการเดิมพันทั้ง 2 แบบนี้ สามารถแยกย่อยได้อีกหลากหลายรูปแบบ
Outside bets การวางเดิมพันภายนอก
- High/Low bets หรือ แบบสูงต่ำ : เป็นการวางเงินเดิมพัน ด้วยชุดตัวเลขสูง/ต่ำ ในเกม ROULETTE หากลูกบอลเหล็ก ตกลงในช่องตัวเลขระหว่าง 1-18 จะเรียกว่า “ต่ำ” แต่หากลูกบอลเหล็ก ตกลงในช่องตัวเลขระหว่าง 19-36 จะเรียกว่า “สูง” โดยการเดิมพันแบบสูงต่ำ จะมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 เท่า
- Red/Black bets หรือ แบบแดง–ดำ : เป็นการวางเงินเดิมพันตัวเลข สีแดง–ดำ ในเกม ROULETTE หากลูกบอลเหล็ก ตกลงในช่องสีแดงหรือสีดำ แล้วผู้เล่นทายถูก ก็จะได้รับเงินรางวัล โดยมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 เท่า
- Even/Odd bets หรือ แบบคี่–คู่ : เป็นการวางเงินเดิมพันตัวเลขคี่–คู่ ในเกม ROULETTE หากลูกบอลเหล็ก ตกลงในช่องตัวเลขคี่หรือคู่ แล้วผู้เล่นทายถูก ก็จะได้รับเงินรางวัลไป โดยมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 1 เท่า
- Dozen bets : หรือการวางเงินเดิมพันแบบเต็งโซน เป็นการวางเงินเดิมพันกลุ่มตัวเลข โดยใน 1 ชุด จะมีทั้งหมด 12 ตัวเลข และมีให้ผู้เล่นเลือกทั้งหมด 3 ชุด คือ 1st to 12, 2nd to 12 และ 3rd to 12 ซึ่งจะมีตัวเลขที่ไม่ซ้ำกัน หากลูกบอลเหล็กตกลงในช่องตัวเลขที่ผู้เล่นได้ทำการเลือกไว้ ก็จะได้รับอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 2 เท่า
- Column Bet : หรือการวางเงินเดิมพันแบบเต็งแถว โดยจะมีแถวให้ผู้เล่นได้เลือกเดิมพัน 3 แถว คือ 1st, 2nd และ 3rd ซึ่งในแต่ละแถวนั้น จะมีตัวเลขอยู่ 12 หมายเลข หากลูกบอลเหล็กตกลงในช่องตัวเลขที่ผู้เล่นได้เลือกไว้ จะได้รับอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 2 เท่า
Inside bets การวางเดิมพันภายใน
- Straight Up bets : เป็นการวางเงินเดิมพันแบบเต็งหมายเลขในเกม ROULETTE โดยจะมีตัวเลขให้เลือกเดิมพันตั้งแต่ 0-36 รวมเป็น 37 หมายเลข วิธีชนะต้องให้ลูกบอลเหล็ก ไหลตกลงในช่องตัวเลขที่ผู้เล่นเลือกไว้เท่านั้น โดยมีอัตราการจ่ายเงินสูงถึง 36 เท่า
- Split Bets : เป็นการวางเงินเดิมพันแบบเต็งสองหมายเลขในเกม ROULETTE โดยมีตัวเลขให้เลือกตั้งแต่ 0-36 แต่ผู้เล่นต้องเต็งสองหมายเลขที่ติดกันเท่านั้น เช่น จะวางเดิมพันที่เลข 10 กับ 13 ก็ให้วางชิปเดิมพันไว้ที่ว่างตรงกลางระหว่าง เลข 10 และ 13 ได้เลย โดยวิธีชนะต้องให้ลูกบอลเหล็ก ไหลตกลงในช่องตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งที่เลือกไว้ ซึ่งจะมีอัตราการจ่ายเงิน อยู่ที่ 17 เท่า
- Street Bets : เป็นการวางเงินเดิมพันแบบเต็งสามหมายเลขในเกม ROULETTE โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 0-36 แต่ต้องเต็งสามหมายเลขที่อยู่ในแถวเดียวแนวตั้งเท่านั้น โดยวิธีชนะต้องให้ลูกบอลเหล็ก ไหลตกลงในช่องตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งที่เลือกไว้ ซึ่งมีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 11 เท่า
- Corner bets : หรือการเดิมพันแบบคร่อมสี่เลข เป็นการวางเงินเดิมพันแบบเต็งสี่หมายเลข โดยมีให้เลือกตั้งแต่เลข 0-36 แต่ต้องเต็งสี่หมายเลขเท่านั้น และต้องประกอบกันเป็นสี่เหลี่ยมเช่น เลือกวางเดิมพันที่เลข 28, 29, 31 และ 32 ให้ผู้เล่นเอาชิปเดิมพันวางไว้ตรงกลางระหว่างทั้ง 4 หมายเลข โดยวิธีชนะต้องให้ลูกบอลเหล็ก ไหลตกลงในช่องตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งที่เลือกไว้ มีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 8 เท่า
- Line Bets : หรือการเดิมพันแบบคร่อมหกเลข เป็นการวางเงินเดิมพันแบบเต็งหกหมายเลข มีให้เลือกตั้งแต่ 0-36 แต่ต้องเต็งหกหมายเลขที่อยู่ในแถวแนวตั้งติดกันเท่านั้น เช่น เลือกวางเดิมพันที่เลข 22, 23, 24, 25, 26 และ 27 ให้ผู้เล่นเอาชิปเดิมพันวางไว้ตามตำแหน่งได้เลย โดยวิธีชนะต้องให้ลูกบอลเหล็ก ไหลตกลงในช่องตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งที่เลือกไว้ มีอัตราการจ่ายเงินอยู่ที่ 5 เท่า